หัวข้อ
    ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Volatility Skew
    bybit2024-10-25 06:25:36

    Volatility Skew ประกอบด้วย Implied Volatility (IV) ที่แตกต่างกัน ที่สอดคล้องกับราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price) ที่แตกต่างกัน (ออปชันส์ ATM, ITM และ OTM) ของสินทรัพย์อ้างอิง

     

    เราจะเชื่อมต่อค่า IV ของราคาใช้สิทธิ์ที่แตกต่างกันเพื่อสร้างเส้นโค้งขึ้นมา โดยเส้นโค้งที่สมมาตรด้านซ้ายและขวานี้เรียกว่า Volatility Smile และเส้นโค้งอสมมาตรเรียกว่า Volatility Smirk ซึ่งค่าความโค้ง (Skewness) หมายถึงความชันของค่า IV เหล่านี้
     

     

    image.png

     

     

     

    Horizontal และ Vertical Skew

    Volatility Skew มีสองประเภท — ได้แก่ Horizontal (แนวนอน) และ Vertical (แนวตั้ง) ตามวันหมดอายุของออปชัน 

     

    Horizontal Skew: Horizontal Skew หมายถึงความผันผวนของราคาใช้สิทธิ์เดียวกัน ณ วันหมดอายุที่แตกต่างกัน

     

    Vertical Skew: Vertical Skew หมายถึงความผันผวนของ Volatility Skew ระหว่างราคาใช้สิทธิ์ที่แตกต่างกัน ณ วันหมดอายุเดียวกัน

     

    โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดจะมุ่งเน้นไปที่ Vertical Skew มากกว่า Horizontal Skew

     

     

     

     

     

     

     

     

    Forward และ Reverse Skew

    Volatility Skew สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภท ได้แก่ Forward Skew และ Reverse Skew ตามทิศทางของ Volatility Skew

     

    Forward Skew: Forward Skew เกิดขึ้นเมื่อออปชันส์ที่มีราคาใช้สิทธิ์สูงกว่า มี IV สูงกว่าออปชันส์ที่มีราคาใช้สิทธิ์ที่ต่ำกว่า


     

    image.png

     

     

    Reverse Skew: Reverse Skew จะเกิดขึ้นเมื่อ IV นั้นสูงกว่า ในออปชันส์ที่มีราคาใช้สิทธิ์ที่ต่ำกว่า 


     

    image.png

     

     

    เราเห็นได้จากรูปแบบ Volatility Smile ที่แตกต่างกัน ว่าตลาดคาดการณ์ความน่าจะเป็นที่สินทรัพย์อ้างอิงจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในอนาคตว่าอย่างไร

     

    โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งความชันของ Forward Skew สูงขึ้น ตลาดยิ่งมองว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงเป็นขาขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต ในกรณีนี้ ตลาดจะให้ราคา Call Option ที่สูงขึ้นตาม ในทางกลับกัน ยิ่งความชันของ Reverse Skew มากเท่าใด ตลาดก็ยิ่งเชื่อว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะลดลงในอนาคต และการประเมินมูลค่าของ Put Option ก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น

     

    อย่างไรก็ตาม ในตลาดที่ขาดกลไก "การ Short" หรือการที่ค่าใช้จ่ายของการ Short สูงนั้น Reverse Skew จะพบได้บ่อยกว่า ทั้งนี้ เนื่องจากมีการใช้ออปชันส์จำนวนมากเพื่อ Hedge ความเสี่ยงของสินทรัพย์อ้างอิงเป็นหลัก

     

     

     

     

     

     

     

     

    วิธีการใช้ Volatility Skew

    จากกราฟ IV ที่คุณกำลังดูอยู่นี้ เป็นเรื่องง่ายที่จะหาว่าเป็น Forward Skew หรือ Reverse Skew และ Skew มากแค่ไหน

     

    คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะซื้อออปชันในราคาใช้สิทธิ์ใด และจะขายออปชันในราคาใช้สิทธิ์ใด ขึ้นอยู่กับค่า Skew ของรูปแบบ Volatility Smile โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพิจารณาเทรดสเปรด เช่น Bull-Bear Spread

     

    ในตลาดกระทิง เรามักจะชอบเทรด Bull Call Spread อย่างไรก็ตาม หาก Forward Skew ค่อนข้างไม่มากนัก บางทีเราอาจพิจารณาเทรด Bull Put Spread ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

    มีประโยชน์หรือไม่?
    yesมีyesไม่มี